วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2558

CHEF

อาชีพที่ฉันอยากจะเป็นในอนาคตคือ เชฟ หรือ กุ๊ก มีหน้าที่ปรุงแต่งอาหารออกมาด้วยความตั้งใจเพื่อที่จะได้มาซึ่งรสชาติที่ดีเพื่อให้ผู้ที่มาทานอาหารมีความสุข อาชีพเชฟเป็นอาชีพที่ได้มอบความสุขให้คนที่มาทานอาหารและยังได้สร้างสรรค์อาหารที่ดีมีประโยชน์ รสชาติดีให้แก่ผู้อื่นทาน 
1. คุณลักษณะของงาน
เป้าหมายของงาน / โจทย์ใหญ่ของงาน /ความท้าทายของงาน

เป้าหมายที่สำคัญเลยก็คือการปรุงอาหารออกมาให้ลูกค้าพอใจในรสชาติมากที่สุด ซึ่งแต่ละร้านก็จะมีรสชาติที่เป็นซิกเนเจอร์ของตัวเอง การที่ลูกค้าเข้ามารับประทานอาหารและชอบในรสชาติของร้าน หรือในฝีมือการปรุงอาหารของเรานั้นคือสิ่งที่สำคัญสำหรับอาชีพเชฟ และนอกเหนืจากการปรุงแล้ว และความท้าทายคือการได้ออกไอเดียคิดเมนูใหม่ๆการจัดหา วัตถุดิบ เครื่องปรุงที่แปลกใหม่ วิธีการปรุง ขั้นตอนต่างๆ ทำอย่างไรรสชาติอาหารจึงจะออกมาถูกปากทุกคน
 

2.บุคลิก นิสัยของคนที่เหมาะจะทำอาชีพนี้

1.  ต้องเป็นคนที่รักความสะอาด เป็นเรื่องที่สำคัญมากในการทำอาหาร เพราะถ้าวัตถุดิบหรือเครื่องมือไม่สะอาด อาจจะทำให้ลูกค้าท้องร่วง ท้องเสีย หรืออาหารเป็นพิษเมื่อได้ทานอาหารของเรา ซึ่งส่งผลต่อร้าน และ การประกอบอาชีพของเรา
2. รักการทำอาหาร แน่นอนว่าไม่ว่าจะประกอบอาชีพใดๆก็แล้วแต่จะต้องรักในอาชีพนั้นๆ   เพราะจะทำให้เราสนุกกับการทำงาน อยากเรียนรู้อะไรใหม่ๆ และตั้งใจที่จะทำอาหารออกมาให้ดีที่สุด
3. สามารถจัดสรรเวลาได้เป็นอย่างดี การทำอาหารมีเรื่องของเวลาเป็นตัวกำหนด เพราะมีเรื่องของวัตถุดิบที่จะต้องเสีย หมดอายุ และเรื่องของลูกค้าที่กำลังรออาหาร เราไม่ควรต้องให้ลูกค้ารออาหารนานเกินไปเพราะอาจทำให้ลูกค้าหงุดหงิดเพราะความหิวได้
4. สามารถสื่อสารได้เป็นอย่างดี การทำงานของเชฟต้องทำงานเป็นทีม ส่งต่อและแบ่งงานให้กับเชฟคนอื่นๆ มีระยะเวลาที่สั้น ต้องการความรวดเร็วคล่องตัว การสื่อสารภายในครัวจึงเป็นสิ่งที่ต้องสื่อสารให้รู้เรื่อง
5. มีความอดทน จะต้องเข้าใจถึงธรรมชาติของอาชีพนี้ ไม่ว่าจะทำหน้าที่อยู่ใน ภัตตาคารของ โรงแรม ห้องอาหาร ร้านอาหารธรรมดา หรือ ประกอบเป็นอาชีพส่วนตัว คือต้องทำงานหนัก   ต้องอยู่ในครัว และหน้าเตาประกอบอาหาร เผชิญกับความร้อน กลิ่นอาหารทั้ง ของสด หรือขณะกำลังปรุง และต้องอยู่ในครัวในช่วงเช้ามืดเพื่อเตรียมและประกอบ อาหารเช้า กลางวัน และเย็น หรือออกไปตลาดสดเพื่อเลือกซื้ออาหารสดด้วยตนเอง
6. สามารถทำงานภายใต้ความกดดันได้   เพราะเมื่ออาหารออกไปสู่ลูกค้าแล้ว จะเป็นอย่างไรมีผลต่ออาชีพการงานของเราเลยทีเดียว เพราะในบางครั้งอาหารไม่ถูกปากก็อาจโดนคอมเพลนจากลูกค้าได้ง่ายๆ และการผิดพลาดเรื่องเล็กๆน้อยๆในบางครั้งอาจจะเป็นเรื่องใหญ่ ต้องตั้งใจทำทุกเมนูออกมาให้ดีที่สุด
7. เป็นคนใจกว้าง สามารถยอมรับคำติชมจากลูกค้าได้พยายามเสาะแสวงหาความรู้ และประสบการณ์ให้มากขึ้น เพื่อนำไปปรับใช้กับการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า

3. คุณค่าและผลตอบแทน
ผลตอบแทน

อาชีพเชฟจะได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินเดือนในอัตราที่แตกต่างกันไปตามขนาดและรายได้ของสถานประกอบกิจการ ฝีมือหรือและประสบการณ์ของเชฟ ในการจ้างงานอาจเริ่มจากการเป็นผู้ช่วยผู้ประกอบอาหาร และมีประสบการณ์อย่างน้อย 1 -2 ปี เงินเดือนไม่เยอะมากประมาณ 9,000 บาท แต่จะมีค่าเซอร์วิสเข้ามา      ซึ่งแต่จะมีการการันตีเซอร์วิสประมาณ 6,000 บาท ถ้าผลประกอบการดีอยู่ในช่วงไฮซีซั่นก็จะได้เซอร์วิสเยอะว่าช่วงโลซีซั่น  สำหรับการประกอบอาหารในสถานประกอบการขนาดใหญ่ และมีมาตรฐาน ผู้ประกอบอาหารจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งจากผู้ช่วยเป็นพ่อครัว หรือแม่ครัว และเป็นเชฟอันเป็นตำแหน่งสูงสุดซึ่งจะได้รับค่าจ้างที่สูงมาก และถ้ามีเงินทุนในการประกอบกิจการร้านอาหารเป็นของตัวเอง รายได้ก็จะขึ้นอยู่กับชื่อของร้าน ทำเลที่ตั้ง และความอร่อยของรสชาติที่ลูกค้าบอกต่อ

4.คุณค่าของอาชีพนี้ต่อคนรอบข้างและสังคม

เชฟที่ดีต้องคำนึงและใส่ใจถึงสุขภาพของอาหารที่ทำให้ลูกค้า เครื่องปรุงและวัตถุดิบต่างๆที่ใช้ควรจะเป็นวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ยกตัวอย่างง่ายๆว่า การเป็นเชฟที่ดีจะไม่ใส่ผงชูรส หรือ วัตถุดิบที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ผักต้องปลอดสารพิษและเนื้อที่ใช้ต่างๆต้องสดใหม่ไม่ค้างหลายวัน และมีวิธีการปรุงที่สะอาด เพราะถึงแม้ว่าลูกค้าจะไม่รู้ว่าวิธีการปรุงอาหารเป็นอย่างไร เราใช้วัตถุดิบอะไร  มีวิธีการปรุงอย่างไร แต่เราต้องรักษาจรรยาบรรณโดยการตั้งใจทำทุกเมนูออกมาให้มีคุณภาพที่สุด คิดว่าเราอยากกินอาหารแบบไหนเราก็ทำแบบนั้นให้ลูกค้า
 
5. ทักษะ ความรู้ ความสามารถ

ความรู้ที่สำคัญเลยคือต้องมีพื้นฐานในการทำอาหาร ซึ่งตอนนี้ก็มีสาขาวิชา และคณะที่เปิดสอนหลายสถาบันมาก  แต่สิ่งที่สำคัญที่จะทำให้พื้นฐานของเราแน่นขึ้น คือปฏิบัติและได้ลงมือทำอยู่เสมอ ทำให้เรามีความชำนาญและเป็นการเพิ่มประสบการณ์ของเราอีกด้วย บางปัญหาอาจจะเกิดขึ้นเฉพาะตอนที่เราได้ลองทำเท่านั้นไม่มีอยู่ในทฤษฎี ซึ่งก็จะทำให้เรารู้วิธีแก้ไขปัญหาในแบบฉบับตัวเอง  ในเรื่องภาษาก็เป็นสิ่งสำคัญ การทำอาหารชาติใด หากได้ภาษาก็จะได้เรียนรู้วัฒนธรรมที่ลึกซึ้งมากขึ้น บางหลักสูตรเปป็นอาจารย์เป็นชาวต่างชาติ หากได้ภาษาก็สามารถโกอินเตอร์ไปเป็นเชฟที่ต่างประเทศได้ หรือแม้แต่ในประเทศตามโรงแรม 5 ดาว ลูกค้าของเราเป็นชาวต่างชาติซะส่วนใหญ่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น